โอปอล

เป็นอัญมณีในตระกูลควอตซ์ (Quartz) เช่นเดียวกับแอเมทิสต์ซึ่งเป็นอัญมณีประจำราศีกุมภ์ มีหลายสีด้วยกัน เช่น สีขาว แดง เหลือง เขียว ม่วง ดำ

จากสีสันลวดลายอันงดงามที่พาดผ่านบนตัวโอปอลนี้ ทำให้นักประวัติศาสตร์ ไพลนี (Pliny) ชื่นชมไว้ว่า มันคือศูนย์รวมความงามของเหล่าอัญมณี เพราะประกอบด้วยเปลวไฟสีแดงจากทับทิม ประกายสีม่วงเหมือนแอเมทิสต์ และสีเขียวน้ำทะเลจากมรกต คำว่า Opal มาจากภาษาสันสกฤตว่า อูพาลา แปลว่า หินมีค่า

โอปอลเป็นที่รู้จักมาเป็นเวลานานหลายพันปีมาแล้ว โดยเฉพาะประเทศในแถบตะวันตก นักโบราณคดีชื่อ Louis Leaky ขุดพบเครื่องประดับโอปอลที่เก่าแก่ที่สุดซึ่งมีอายุถึง 6,000 ปี ในถ้ำที่ประเทศเคนยา มงกุฎของกษัตริย์แห่งอาณาจักร Holy Roman ประดับด้วยโอปอลชื่อ Orphanus มงกุฎของกษัตริย์แห่งฝรั่งเศสก็ประดับด้วยโอปอลเช่นกัน อัญมณีสีรุ้งนี้ยังเป็นแรงบันดาลใจให้กับนักเขียนในสมัยก่อนมากมาย เช่น วิลเลียม เช็คสเปียร์ (William Shakespeare) เซอร์ วอลเตอร์ สก็อต (Sir Walter Scott) ก่อให้เกิดภาพลักษณ์ใหม่ ๆ แก่โอปอล

สัญลักษณ์แห่งความหวังและความรัก

เชื่อกันว่าโอปอลเป็นหินแห่งโชคลาง มีความเกี่ยวข้องกับไสยศาสตร์ สามารถบอกเหตุล่วงหน้าได้ว่าจะเกิดเหตุดีหรือเหตุร้าย โอปอลยังเป็นสัญลักษณ์แห่งความหวัง เพราะมันเต็มไปด้วยสายรุ้งแห่งความหวัง ผู้ที่สวมใส่อัญมณีชนิดนี้จะสมหวังในสิ่งที่ต้องการ ชาวอาหรับเชื่อว่าโอปอล คือ อัญมณีที่ตกลงมาจากสวรรค์

สมเด็จพระราชินีวิกตอเรีย มีความเชื่อว่า “โอปอลเป็นหินแห่งความโชคดีในรักแท้” เมื่อพระธิดาของพระองค์มีอภิเษกสมรส พระองค์จะมอบเครื่องประดับโอปอลสำหรับเป็นของขวัญแต่งงานแก่พระธิดาของพระองค์ทุกคนซึ่งทุกพระองค์ที่อภิเษกสมรสไปก็มีชีวิตครอบครัวที่ดี ในเอเชียโอปอลถูกมองว่าเป็นสัญลักษณ์แห่งความหวัง

นอกจากนี้ยังเชื่อว่า โอปอลเป็นอัญมณีแห่งกามเทพ เปรียบเป็นอัญมณีแห่งความรักและความโรแมนติค โอปอลเป็นอัญมณีที่เกี่ยวข้องกับความรักและความหลงใหล ตลอดจนความปรารถนาและความเร้าอารมณ์ เป็นหินที่มีเสน่ห์ที่ช่วยเพิ่มสภาวะทางอารมณ์ความรักและการยับยั้งการเผยแพร่สิ่งที่ไม่ดี นอกจากนี้ยังสามารถทำหน้าที่เป็นเครื่องป้องกันอารมณ์ การสวมโอปอลจะนำมาซึ่งความจงรักภักดีและความซื่อสัตย์